เมื่อวันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565 พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวจริง
กรณีที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่างๆ ถึงประเด็นเรื่อง ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดรับวอล์คอินฉีดวัคซีน เข็ม 1 และ 2 เท่านั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลของเรื่องดังกล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ประกาศเปิดวอล์คอิน ฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับกลุ่มตกค้าง ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ให้บริการวัคซีนสูตรการฉีด AP (AstraZeneca-Pfizer) คือ เข็มที่ 1 ชนิดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2 ชนิดวัคซีนไฟเซอร์ โดยมีระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 28 วัน และอีกกลุ่มคือได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จากศูนย์ฉีดอื่นๆ ทั่วประเทศ แล้วยังไม่ได้รับเข็มที่ 2 ก็สามารถวอล์คอินลงทะเบียน ณ จุดฉีด เข้าประตู 1 เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 14.00 – 16.00 น. ทุกวัน ทั้งนี้สำหรับการรับวัคซีนเข็มที่ 3 หรือ Booster dose ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับ WALK IN แต่อย่างใด
และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000
บทสรุปขอเรื่องนี้คือ : ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดรับวอล์คอินฉีดวัคซีน เข็ม 1 และ 2 เท่านั้น สำหรับการรับวัคซีนเข็มที่ 3 หรือ Booster dose ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับ WALK IN แต่อย่างใด
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
.jpg)